วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บูเช็คเทียน 1

บูเช็คเทียน 1
นับเป็นบุญช่วยหนุนนำหรือกรรมซัด     สวรรค์จัดให้กำเนิดเกิดใต้ฟ้า
ฤๅนรกบีฑาคนดลเธอมา            ลงเป็นข้าในพระองค์ถังไท่จง
เป็นสตรีถือดีมากว่าหญิงอื่น           กล้าหยัดยืนฝืนชะตาที่ฟ้าส่ง

ขอลิขิตขีดเส้นทางอย่างทะนง            เป็นนางหงส์คงเคียงคู่หมู่มังกร

ใครกำหนดกดสตรีมิแจ้งเกิด              บุรุษเลิศประเสริฐล้ำนำหน้าก่อน
ส่วนนารีสิอยู่หลังดังขั้นตอน                คือคำสอนกลอนโบราณสานสืบมา
เปลี่ยนแนวคิดขีดเส้นใต้ให้คำใหม่         ขอก้าวไกลไปเป็นหนึ่งซึ่งเหนือหล้า
เป็นฮ่องเต้ยอดหญิงเหล็กเสกบัญชา               ฤทธิ์เทียมฟ้านางพญาบูเช็กเทียน


บทประพันธ์เบื้องต้นกล่าวถึงผู้หญิงชาวจีนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งได้ขึ้นมาเป็นใหญ่และได้ปกครองประเทศจีน ไม่ใช่เรื่องง่ายในสังคมจีนที่ผู้หญิงจะขึ้นมามีอำนาจเหนือบุรุษเพศ แต่เธอผู้นี้ทำได้ และทำได้อย่างชาญฉลาด บูเช็กเทียน นางคือผู้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นฮ่องเต้สตรีองค์แรกและองค์เดียวของจีน
บูเช็คเทียนเกิดมาจากครอบครัวธรรมดา พ่อของนางเป็นพ่อค้าธรรมดาๆ ภายหลังรับราชการอยู่หัวเมืองรอบนอก ส่วนมารดาก็เป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา นามเดิมก่อนที่นางจะได้เข้าไปอยู่ในพระราชสำนักคือ บูเหม่ยเหนียง แปลว่า โฉมงามเลอเสน่ห์ สมัยที่ยังเป็นเด็กมารดามักจับนางแต่งกายด้วยเสื้อผ้าของเด็กชาย จนใครๆ ที่พบเห็นนึกว่าเป็นเด็กผู้ชาย มีโหรใหญ่คนหนึ่งชื่อหยวนเทียนกังมาเห็นเข้า ก็นึกว่าหนูน้อยน่ารักคนนี้เป็นเด็กชาย จึงออกปากทักว่า เด็กคนนี้ถ้าหากเป็นหญิงล่ะก็ ต่อไปจะได้เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินจีนเป็นแน่ ยิ่งกว่านั้นเมื่อเข้าวังไปแล้ว โหราจารย์แห่งราชสำนักยังพยากรณ์สำทับอีกว่า ต่อไปสตรีแซ่อู่จะมีอำนาจขึ้นล้มราชวงศ์ถัง
ด้วยอายุเพียง 14 ปี กิตติศัพท์ความงามของนางก็ลือลั่นไปทั่ว จนรู้ไปถึงพระกรรณพระเจ้าถังไทจง ฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ถัง พระองค์จึงทรงมีดำรัสตรัสสั่งให้นำนางเข้าวังมาถวายตัวเป็นนางสนมในราชสำนัก และด้วยความงามกับเสน่ห์อันเย้ายวน นางจึงกลายเป็นสนมที่พระเจ้าถังไทจงรักและหลงเป็นยิ่งนัก
ขณะเดียวกันไทจือหรือราชโอรสที่เป็นรัชทายาทผู้มีนามว่า หลี่จื้อ  ก็มีจิตปฏิพัทธ์ต่อนางด้วย ความสวยของบูเช็คเทียนจึงเปรียบเสมือนถนนราดยางอย่างดี ที่จะนำพาตัวนางไปสู่ความโดดเด่นเหนือสนมกำนัลในทั้งปวง ว่ากันว่าองค์ไทจือนั้นหลงใหลในตัวนางมากๆทั้งที่มีมเหสีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อาจทำอะไรนอกลู่นอกทางได้นอกจากเฝ้ารอคอยเวลาที่จะได้ชื่นชมตัวนางเท่านั้น
แต่แล้วไทจือก็ไม่ต้องทรงรอนาน เมื่อพระเจ้าถังไทจงผู้เป็นพระราชบิดาสิ้นพระชนม์ลง พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าถังเกาจงฮ่องเต้สืบต่อราชบัลลังก์ ความหลงใหลในตัวบูเช็คเทียนที่ตราตรึงอยู่ในดวงหทัยของพระองค์ เพิ่มมากขึ้นเป็นเงา และเมื่อพิศวาสกำเริบหนักพระองค์ก็อาจหาญ สึกบูเช็คเทียนที่จำต้องโกนหัวเข้าวัดบวชตามโบราณราชประเพณีมาเป็นสนมเอกของพระองค์สมความปรารถนา
บูเช็คเทียนได้เข้าวังอีกครั้ง และรั้งตำแหน่งใหญ่กว่าเดิม นางเริ่มคิดกำเริบในใจว่า ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นข้าบาท นาสนมเท่านั้น หากจะต้องยิ่งใหญ่กว่าใครในราชสำนักฝ่ายในและหนทางที่จำไปสู่อำนาจได้นั้นต้องอาศัยความแยบยลและรอบคอบ นางจึงใช้ความฉลาดวางหมากเดินแต้ม โดยเหยียบย่ำลงบนเลือดเนื้อและชีวิตของผู้คนมากมาย ไม่เว้นแม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไข ลูกในไส้ของตนเอง !
โปรดติดตามได้ในตอนต่อไป ....การใช้ความสวยงามก็ประการหนึ่ง ใช้ความฉลาดก็อีกประการหนึ่ง หญิงใดใช้ทั้งสองอย่างให้เป็นประโยชน์ มักครองรัก ปกครองผู้คนได้อย่างมั่นคงและยาวนาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น