นอกจากจะคลั่งไคล้บูชาอาเตนเต็มที่แล้ว ฟาโรห์ยังกระทำยํ่ายีศาสนาเดิม โดยมีบัญชาให้ปิดวิหารเทพเจ้าอื่นๆจนสิ้น สร้างความโกรธเป็นเดือดเป็นแค้นแก่นักบวชที่เคยมีอิทธิพลต่อจิตใจของชนอียิปต์อย่างมากมาย
ในปีที่ 1336 ก่อนคริสตกาล ฟาโรห์อาเคนาเตน สิ้นพระชนม์ แผ่นดินตกอยู่ในการปกครองของผู้สำเร็จราชการนาม เนเฟอร์เนเฟอรู อาเตน ซึ่งไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเขาเป็นใครมาจากไหน หลายคนกล่าวว่าเขามิใช่ใครอื่น หากแต่เป็นมเหสีเอก เนเฟอร์ติตีนั่นเอง
เนเฟอร์ติตีนั้นไม่ปรากฏพระองค์ หรือมีบทบาทใดๆให้เห็นในช่วงท้ายๆรัชกาลอาเคนาเตน จะเป็นด้วยเหตุผลใดไม่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าทรงรู้ดีว่าพระองค์นั้นมีส่วนร่วมกับฟาโรห์ทำลายล้างศาสนาเดิม และได้สร้างศัตรูไว้มากมาย จึงต้องทรงซ่อนเร้นและปกครองอียิปต์ต่อมาอย่างไม่เปิดเผยพระองค์
ในช่วงระยะเวลาอันสั้นราว 3 ปี ในฐานะผู้สำเร็จราชการนี้ ได้มีความพยายามที่จะประนีประนอมรื้อฟื้นการบูชาเทพเจ้าดั้งเดิมขึ้นใหม่ เพื่อบรรเทาความอาฆาตแค้นของศัตรูหากแต่ไม่เป็นผล การสิ้นพระชนม์ของเนเฟอร์-ติตี ก็เป็นเรื่องลี้ลับ อย่างไรก็ตาม โดยที่มีผู้เกลียดชัง ได้ทำให้ภาพของเนเฟอร์ติตีตามวังและวิหารต่างๆ ถูกลบพระพักตร์ ออก อันเป็นการกระทำที่เกิดจากความเคียดแค้นอาฆาตที่สะสมมานาน และโดยเหตุที่พระนางมีใบหน้าที่สวยงามกว่านางใดในแผ่นดิน ด้วยเหตุนี้เองที่ใบหน้า ของพระนางในรูปเขียนต่างๆ จึงถูกทำลายอย่างเฉพาะเจาะจง และแม้แต่มัมมี่ของพระนาง ก็ยังไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าอยู่หนใด
จวบจนกระทั่งนักอียิปต์วิทยาได้สันนิษฐานว่ามัมมี่ 1 ใน 3 ร่าง ที่พบในสุสานหมายเลข KV 35 แห่งหุบเขากษัตริย์ ใกล้เคียงกับสุสานของตุตันคาเมน นั่นน่าจะเป็นมัมมี่ของเนเฟอร์ติตี เหตุผลของการสันนิษฐานประมวลได้ว่ามัมมี่ร่างนั้นมีคอเรียวยาวดุจหงส์ ซึ่งละม้ายกับรูปลักษณ์ของเนเฟอร์ติตีผู้งดงาม และอายุของมัมมี่นี้ก็อยู่ในยุคเดียวกับพระนาง
นอกจากนี้ ตลอดร่างของมัมมี่ก็ถูกทำลายเสียหาย เช่น ใบหูถูกเจาะ ศีรษะถูกโกน คิ้วถูกกดเป็นรอย ลำตัวมีริ้วรอย ซึ่งล้วนตรงกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ต่อภาพเขียนทั้งหลายของพระนาง และที่สำคัญคือ ได้พบวิกผมสไตล์นูเบียน ตกอยู่ใกล้ๆ กับมัมมี่ทั้ง 3 เป็นแบบวิกผมที่ เนเฟอร์ติตี และสมาชิกราชวงศ์ของเธอสวมใส่ อยู่เป็นประจำ!
ทำให้น่าเชื่อได้ว่า มัมมี่นี้ก็คือพระศพของพระนางเนเฟอร์ติตี ราชินีผู้มีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะเมียและแม่นั่นเอง
ทำให้น่าเชื่อได้ว่า มัมมี่นี้ก็คือพระศพของพระนางเนเฟอร์ติตี ราชินีผู้มีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะเมียและแม่นั่นเอง
และจากการสันนิษฐานว่า เป็นมัมมี่ของเนเฟอร์ติตีผู้งามที่สุดในโลก โครงการหนึ่งของทีมงานศึกษาครั้งนี้ จึงมุ่งเน้นในการสร้างภาพดิจิตอล พระพักตร์ของเนเฟอร์ติตีจากโครงหน้าของมัมมี่นี้ ซึ่งจะได้ภาพราชินีอียิปต์ผู้ทรงโฉม




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น